วันเสาร์ที่ 4 มีนาคม พ.ศ. 2560


Welcome to PonyEnglish !




เว็บนี้สร้างขึ้นเพื่อผู้ที่สนใจเรื่อง Adjective นะจ๊ะ

Adjective Order

Adjective Order การเรียงลำดับคำคุณศัพท์



คำคุณศัพท์ Adjective มีเยอะแยะไปหมด ถ้าเราต้องการนำมันหลายๆตัว มาใช้ในประโยคเดียวกัน เราจะต้องรู้ว่า จะเอาคำไหนขึ้นก่อน ขึ้นหลัง

หลักการเรียงลำดับคำคุณศัพท์ Adjective Order มีดังนี้

ลำดับที่1 : Article (คำนำหน้านาม) เช่น a, an, the หรือ Possessive (คำแสดงความเป็นเจ้าของ) เช่น his, her, their, my, your

ลำดับที่2 : Number (จำนวน) เช่น one, two, three, four

ลำดับที่3 : Opinion (ความคิดเห็นเชิงคุณภาพ) เช่น beautiful, pretty, smart, colorful

ลำดับที่4 : Size (ขนาด) เช่น huge, slim, big

ลำดับที่5 : Shape (รูปร่าง) เช่น round, triangle

ลำดับที่6 : Age (อายุ) เช่น old, new, young

ลำดับที่7 : Color (สี) เช่น red, blue, black, yellow

ลำดับที่8 : Nationality (สัญชาติ) เช่น Chinese, Dutch, American, British

ลำดับที่9 : Material (วัสดุ) เช่น silver, cotton

ลำดับที่10 : Noun used as adjective (คำนามที่นำมาใช้เป็นคำคุณศัพท์) หรือ Participle (V + ing) เช่น swimming, running


ตารางสรุปการเรียงลำดับ Adjective



ตัวอย่างจากรูป

These three green apples look delicious. (แอปเปิ้ลสีเขียว 3ลูกนี้ดูน่าอร่อย)

That short-sleeved new red cotton shirt costs me 1000 Baht. (เสื้อเชิ้ตแขนสั้นสีแดงตัวใหม่ตัวนั้น ราคา 1000บาท)

Adjective Vocabulary

เรามาดูตัวอย่างคำ Adjective ที่ใช้บ่อยกันเถอะ 


absent แอ๊บเซินท ขาด (เรียน, งาน)
afraid อะเฟรด กลัว
back แบ๊ค หลัง
bad         แบด เลว
beautiful บิ๊วทิฟุล สวย
better เบ็ทเทอะ ดีกว่า
big บิก ใหญ่
black แบล็ค ดำ
boring บ๊อริง น่าเบื่อ
bright ไบร๊ท สว่าง, ฉลาด
broad บรอด กว้าง
broken โบร๊เคิน แตก
cloudy คล๊าวดิ มีเมฆมาก
cold โคลด หนาว
cool คูล เย็น
crazy เคร๊สิ บ้าคลั่ง
curly เค๊อลิ หยิก
daily เด๊ลิ รายวัน
dangerous เด๊นจะเริส อันตราย
dark ดาค มืด
deep ดีพ ลึก
difficult ดิ๊ฟฟิเคิลท ยาก
dirty เด๊อทิ สกปรก
dry ดราย แห้ง
easy อี๊สิ ง่าย
empty เอ็มทิ ว่างเปล่า
excellent เอ็กซะเลินท ยอดเยี่ยม
excited อิกไซ๊เท็ด ตื่นเต้น
expensive อิกซเป็นซิฝ แพง
famous เฟ็เมิส มีชื่อเสียง
fast ฟาสท เร็ว
fat แฟ็ท อ้วน
fault ฟ๊อลท เท็จ
final ไฟ๊เนิล สุดท้าย
fine ไฟน ดี
first เฟิสท ลำดับแรก
free ฟรี อิสระ, เปล่า
fresh เฟร็ช สดชื่น
friendly เฟร็นลิ เป็นมิตร
full ฟุล เต็ม
41 funny ฟั๊นนิ ตลก
42 gentle เจ็นเทิล อ่อนโยน
glad แกลด ดีใจ
good กุด ดี
gray เกร สีเทา
great เกรท เยี่ยม
greedy กรี๊ดิ ตะกละ
green กรีน เขียว
half ฮาฟ ครึ่ง
handsome แฮ๊นเซิม หล่อ
happy แฮ๊พพิ มีความสุข
hard ฮาด แข็ง, ยาก
heavy เฮ็ฝฝิ หนัก
healthy เฮ็ลธิ มีสุขภาพดี
high ไฮ สูง
hot ฮ็อท ร้อน
hungry ฮั๊งกริ หิว
kind ไคด ใจดี
large ลาจ กว้าง
last ลาสท สุดท้าย, ..ทีแล้ว
late เลท สาย
lazy เล๊สิ ขี้เกียจ
left เล็ฟท ซ้าย
light ไลท สว่าง
little ลิ๊ทเทิล เล็ก
long ลอง ยาว
loose ลูส หลวม
loud ลาด เสียงดัง
low โล ต่ำ
lucky ลัคคิ โชคดี
many เม็นนิ มาก
narrow แน๊โร แคบ
new นิว ใหม่
nice ไนซ ดี
noisy น๊อยสิ มีเสียงดัง
old โอลด แก่
perfect เพ๊อเฟ็คท สมบูรณ์แบบ
poor พอ จน
pretty พริททิ สวย
quick ควิก เร็ว
quiet ไคว๊เยิท เงียบ
rainy เร๊นนิ มีฝนตกชุก
red เรด แดง
rich ริช รวย
right ไรท ถูก,ขวา
round ราวด กลม
sad แซด เศร้า
safe เซฟ ปลอดภัย
short ชอท สั้น
slow สโล ช้า
small สมอล เล็ก
snowy สโน๊วิ มีหิมะตก
sorry ซ้อริ เสียใจ
sour เซ๊าเวอะ เปรี้ยว
straight สเตรท ตรง
strange สเตรนจ แปลก
strong สตรอง แข็งแรง
sunny ซั๊นนิ มีแดดออก
sweet สวีท หวาน
tall ทอล สูง
thick ธิค หนา
thin ธิน บาง, ผอม
tight ไทท แน่น
tiny ไท๊นิ เล็ก
tired ไท๊เยิด เหนื่อย
tough ทัฟ เหนียว
true ทรู จริง
ugly อั๊กลิ น่าเกลียด
warm วอม อุ่น
weak วีค อ่อนแอ
well เว็ล ดี
wet เว็ท เปียก
white ไวท ขาว
wide ไวด กว้าง
windy วิ๊นดิ มีลมพัด
wise ไวส ฉลาด
wrong รอง ผิด
yellow เย็ลโล เหลือง
young ยัง เป็นเด็ก
your ยัว ของคุณ

Type of Adjectives

Adjective แบ่งได้กี่ประเภทกันนะ ?


Adjectiveตามหลักการแล้ว Adjective จะแบ่งออกได้เป็น 11 ประเภท ได้แก่


1. Descriptive Adjective (คุณศัพท์บอกลักษณะ) คือ คำที่ใช้บอกลักษณะของ Noun นั้น เช่น

The rich man’s toys.
ของเล่นของคนรวย ( rich ไปขยาย man มีความหมายได้ว่าคนรวย)

You are a good student.
เธอเป็นนักเรียนที่ดีนะ (good ไปขยาย student ว่าเธอเป็นนักเรียนแบบไหน)

I have dark skin.
ฉันมีสีผิวที่คล้ำ (dark ไปขยาย skin ว่าผิวมีสีอะไร)

Happy meal.
มื้ออาหารที่สุขสำราญ (happy ไปขยาย meal ว่ามื้ออาหารเป็นอย่างไร)

His death made me feel sorry.
การเสียชีวิตของเขาทำให้ฉัน(มีความรู้สึกที่)รู้สึกผิด (sorry ไปขยาย me ว่าฉันรู้สึกผิด นอกจาก sorry จะแปลว่าเสียใจแล้วยังสามารถแปลได้ว่า ที่รู้สึกผิดได้อีกด้วย)

This is a red bag.
นี่คือกระเป๋าสีแดง (red ไปขยาย bag ว่ากระเป๋าสีอะไร)


2. Proper Adjective (คุณศัพท์บอกสัญชาติ) คือ คำที่ใช้บอกสัญชาติของ Noun นั้น เช่น

Do you learn Italian language?
คุณเรียนภาษาอิตาเลี่ยนไหม? (Italian ขยาย language)

Are you Thai?
คุณเป็นคนไทยหรือเปล่า? (Thai ขยาย you)

** สังเกตดู Proper Adjective เมื่อนำมาใช้จะขึ้นต้นด้วยอักษรพิมพ์ใหญ่เสมอ



3. Quantitative Adjective (คุณศัพท์บอกปริมาณ) คือ คำที่ใช้บอกปริมาณของ Noun นั้น ว่ามีจำนวนแค่ไหน มากหรือน้อย เช่น

How much is it?
มันราคา(มาก)เท่าไร? (much ขยาย it จากประโยคเป็นการถามราคาส่วนใหญ่จะนิยมถามด้วย How much?)
The little white rabbit.
กระต่ายสีขาวตัวน้อย (ประโยคนี้มี Adjective อยู่สองที่ด้วยกัน นั่นคือ little และ white ซึ่งทั้งสองต่างก็ขยาย rabbit)
‘Cause all of me loves all of you. 
(ท่อนหนึ่งจากเพลง All of me ของ John Legend) เพราะทั้งหมดของ(ใจ)ฉัน รักทั้งหมดที่เป็นเธอ (all ขยาย me และ you ด้วยเช่นกัน)


4. Numeral Adjective (คุณศัพท์บอกจำนวนแน่นอน) คือ คำที่ใช้บอกจำนวนที่แน่นอนของ Noun นั้น (อาจแบ่งได้เป็นการบอกจำนวน การบอกลำดับ และการบอกจำนวนเท่า) เช่น

There are seven days in a week.
มี 7 วันในหนึ่งสัปดาห์ (seven ขยาย days)

Tom is the second son of his family.
ทอมเป็นบุตรคนที่สองครอบครัวของเขา (second ขยาย son)

The hand has five fingers.
มือมี 5 นิ้ว (five ขยาย fingers)


5. Demonstrative Adjective (คุณศัพท์ชี้เฉพาะ) คือ คำที่ใช้ชี้เฉพาะของ Noun นั้น เช่น

This year
ปีนี้ (This ขยาย year เพื่อบอกว่าปีนี้นะ ไม่ใช่ปีอื่น)

Those shoes are too expensive.
รองเท้าคู่นั้นราคาแพง (Those ขยาย shoes เพราะรองเท้าไม่ได้แพงทุกคู่)

That cat is so adorable.
แมวตัวนั้นน่ารัก (That ขยาย cat)

**   this (นี้), that (นั้น) สองคำนี้ใช้กับนามเอกพจน์
these (นี้) ,those (นั้น)  สองคำนี้ใช้กับนามพหูพจน์


6. Interrogative Adjective (คุณศัพท์บอกคำถาม) คือ คำที่ใช้เพื่อให้ Noun นั้นเป็นคำถาม เช่น

Where are you going?
คุณกำลังจะไปไหนหรอ? (Where ขยาย you เพื่อให้เป็นประโยคคำถาม ถ้าไม่ใช่ประโยคทำถามเราจะใช้ You are going แปลว่าคุณกำลังจะไป)

How many boys are there in the class?
มีเด็กผู้ชายกี่คนในห้องนี้? (How ขยาย boys เพื่อทำให้เป็นประโยคคำถามและใช้กับ many เป็น How many เพื่อถามถึงจำนวน ประโยคตัวอย่างในข้อนี้มี Adjective หลายประเภทเลยครับ ลองหาดูนะครับว่ามีประเภทไหนบ้าง)
What is your plan?
คุณมีแผนอะไรบ้าง? (What ขยาย your plan)

** ส่วนมาก Interrogative Adjective จะหมายถึงคำที่ใช้ขึ้นต้นคำถามต่าง พวก WH Question เช่น what, where, why, whose, where, why, how, which


7. Possessive Adjective (คุณศัพท์บอกเจ้าของ) คือ คำที่ใช้บอกความเป็นเจ้าของ ของ Noun นั้น เช่น

This is my pen.
นี่คือปากกาของฉัน (my ขยาย pen บอกเพื่อให้รู้ว่าปากกาเป็นของใคร เป็นการแสดงความเป็นเจ้าของของปากกา)
I like your hair.
ฉันชอบผมของเธอ (your ขยาย hair เพื่อบอกให้รู้ว่าชอบผมของใคร)

We have sold our house.
พวกเราขายบ้านของพวกเราแล้ว (our ขยาย house เพื่อให้รู้ว่าขายบ้านใคร)

** อย่าสับสนกับเรื่อง Possessive Pronoun นะครับ จำไว้ว่า Possessive Pronoun สามารถใช้แทน noun ได้เลย แต่ Possessive Adjective ต้องมี noun หรือ pronoun ในประโยคด้วย



8. Distributive Adjective (คุณศัพท์แบ่งแยก) คือ คำที่ใช้กับ Noun เพื่อแยก Noun ออกจากกัน เช่น

Each girl in our class is well-versed in music.
เด็กหญิงแต่ละคนในห้องของพวกเรารอบรู้ในเรื่องของดนตรี (Each ขยาย girl ให้เห็นภาพว่าแต่ละคน)
Either side is a narrow lane.ไม่ข้างใดก็ข้างหนึ่งเป็นซอยแคบ (Either ขยาย side โดยแบ่งคำว่า side ออกเป็นสองฝั่ง)



9. Emphasizing Adjective (คุณศัพท์เน้นความ) คือ คำที่ใช้เน้นให้ Noun ฟังดูมีน้ำหนักมากขึ้น เช่น

I saw all this with my own eyes.
ฉันเห็นทั้งหมดมาด้วยตาของฉันเลยแหละ (own ขยาย eyes เป็นการเน้นให้เห็นว่า กับตาของฉันเลยนะ แหม ฟังดูละคงต้องเชื่อเลยทีเดียว)

He is a very good guy.
เขาเป็นคนดีมากๆ (very ขยาย good guy เพื่อขยายว่าเค้าดีมากๆ ดีจริงๆนะ ดี๊ดี)



10. Exclamatory Adjective (คุณศัพท์บอกอุทาน) คือ คำที่ใช้ขยาย Noun เพื่อให้เป็นคำอุทาน

What a surprise!
เฮ้ยยย อะไรอ้ะ!!/ เซอร์ไพรส์จัง (เอา what มาขยาย surprise ฟังดูเป็นคำอุทานขึ้นมาเลยเนอะ)

It’s amazing!
น่าประหลาดใจจังเลย (amazing ขยาย it แต่อาจจะใช้กับอะไรดีเลิศก็ได้นะครับ เช่น เพื่อนบอกว่า “แกๆชั้นได้รางวัลตุ๊กตาทองแดง สาขาดาราวิ่งผ่านกล้องยอดเยี่ยม” แล้วเราจะบอกว่า ดีจังเลยยอดเยี่ยม เราสามารถบอกได้ว่า “It’s amazing!” ครับ)



11. Relative Adjective (คุณศัพท์สัมพันธ์) คือ คำที่ทำหน้าที่คล้ายคำเชื่อม หรือ conjunction แต่ในขณะเดียวกันก็ทำหน้าที่ขยาย Noun ตัวหลังด้วย เช่น

This is the house that Jack built.
นี่คือบ้านที่แจ็คสร้าง ( that ทำหน้าที่เชื่อมประโยค 1) นี่คือบ้าน และ 2) แจ็คสร้าง โดยthat ไปขยาย แจ็ค ว่าเขาสร้างอะไร นั่นคือเขาสร้างบ้าน)

โดยทั่วไปตำแหน่งของ Adjective จะสามารถวางในประโยคได้ด้วยกัน 2 ตำแหน่ง คือ
วางไว้หน้าคำนามเพื่อขยายคำนามนั้นโดยตรง หรืออาจวางหลังนาม แต่นามนั้นจะต้องทำหน้าที่เป็นกรรมเท่านั้น เช่น That was a good
วางไว้หลัง Verb to be เช่น It is lovely.

What is Adjcetives?


 ADJECTIVE คืออะไร

Adjcetive หรือ คำคุณศัพท์ คือ คำที่วางไว้หน้าคำนาม หรือสรรพนามเพื่อขยายความเหล่านั้น ในเชิงลักษณะ คุณภาพ ปริมาณ เป็นต้น

Welcome to PonyEnglish ! เว็บนี้สร้างขึ้นเพื่อผู้ที่สนใจเรื่อง Adjective นะจ๊ะ